ภูเขามัทฉะ (抹茶山) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเจียวซี เมืองอี๋หลาน ที่เรียกว่าภูเขามัทฉะก็เป็นเพราะว่าสีของต้นหญ้าบนภูเขามีสีเหมือนชาเขียวมัทฉะนั่นเอง แต่ความจริงไม่ใช่ต้นชานะ เป็นต้นหญ้าต้นสั้นๆ ที่มีรากฝังลึกยาวลงในดิน บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่ปะทะกับลมตะวันออกเฉียงเหนือเกือบตลอดทั้งปี ทำให้พืชพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่ในบริเวณนี้จะต้องเป็นพันธุ์ไม้ที่อึดมากๆ ความงามของธรรมชาติที่สร้างขึ้นนี้จึงทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์อันงดงาม ซึ่งเมื่อก่อนเป็นเส้นทางแสวงบุญของชาวคริสต์ ด้านบนสุดของเขามีรูปปั้นพระเยซูด้วย แต่ในปัจจุบันด้วยความสวยงามของเขา มีวัยรุ่นมาเดินแล้วไปโพสต์ลงโซเชียลกันมากมาย ทำให้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาปีนชมความงดงามของธรรมชาติกันอย่างไม่ขาดสายจนต้องมีการควบคุมการจราจรบริเวณเชิงเขาเลยทีเดียว แต่จะขอบอกก่อนว่าหากใครจะปีนเขาลูกนี้ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมจริงๆ เพราะมีระยะทางไปกลับถึง 11 กิโลเมตร และที่สำคัญเป็นทางปีนเขา ปีนบันไดเกือบทั้งหมด ควรมีเวลาอย่างน้อย 5.5 ชั่วโมง เพื่อปีนไปกลับ
แต่หากใครอยากเดินชมธรรมชาติก็สามารถเดินไปชมน้ำตกอู่เฟิงฉี (五峰旗瀑布)ซึ่งจอดรถเดินอีกนิดหน่อยประมาณ 20 นาทีก็ถึงบริเวณน้ำตกเลย ชื่อนี้ตั้งชื่อตามยอดเขาทั้งห้าซึ่งตั้งเรียงเป็นแถวด้านหลังน้ำตก น้ำตกมีสามชั้น มีความสูงประมาณ 100 เมตร
เมื่อเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.3 กิโลเมตร ที่ระดับความสูง 168 เมตรจากระดับน้ำทะเล จะพบกับโบสถ์คาทอลิกที่บูชาพระแม่มารี (聖母朝聖地) สร้างขึ้นในปี 1977 โดยพระภิกษุชาวอิตาลี ซึ่งทำงานในโรงพยาบาลในเมืองอี๋หลาน ว่ากันว่าเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว มีกลุ่มนักปีนเขาได้ประสบกับสภาพอากาศที่เลวร้ายขณะเดินทางขึ้นเขาซานเจียวหลุน นักปีนเขาทั้งห้าคนตัดสินใจลงจากภูเขาในความมืด ระหว่างทางลง พวกเขาเห็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งในชุดคลุมยาวสีขาวคล้ายพระแม่มารี พวกเขาถูกนำทางลงจากภูเขาอย่างปลอดภัยเพื่อรำลึกถึงปาฏิหาริย์นี้ สถานที่แสวงบุญของพระแม่มารีจึงได้ถูกสร้างขึ้น
ทิวทัศน์ของเจตเจียวซีจากโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้
เดินจากโบสถ์ไปอีก 3.7 กิโลเมตรจะถึงทางขึ้นเขาทงเทียนเฉียว 通天橋（聖母山莊登山口）ซึ่งตรงนี้จะมีศาลานั่งพักผ่อน และมีลำธารอันงดงามให้ชมความงดงามไปนั่งพักไปรับบรรยากาศธรรมชาติก่อนจะปีนขึ้นเขาที่แท้จริง
จากตรงนี้ไปจนถึงยอดเขา (聖母山莊) มีระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร ฟังดูแล้ว สบายๆ ไม่ไกลมากนัก แต่จะบอกว่า 1.6 กิโลเมตรนี้เป็นเส้นทางของการปีนเขาที่มีความชัน เป็นบันไดเกือบตลอดทาง แทบจะไม่มีทางราบเลย ใช้เวลาอีกประมาณ 1.5-2.5 ชั่วโมง แต่เมื่อไปถึงจุดหมายแล้วก็เรียกว่าคุ้มสุดๆ กับทิวทัศน์ที่ได้เห็น
Comments
Post a Comment