เดินเที่ยวเมืองออนเซ็น เมืองซินเป่ยโถว (新北投)(ตอนที่ 1)

เมืองซินเป่ยโถวถูกค้นพบและสร้างขึ้นในยุคที่ไต้หวันตกอยู่ภายในใต้อาณานิคมของญี่ปุ่นประมาณ เป็นย่านพักผ่อนหย่อนใจตั้งแต่ ค.ศ. 1895 - 1945 โดยสมัยนั้นญี่ปุ่นได้เข้ามาปกครองไต้หวันและสร้างสาธารณูปโภคให้กับไต้หวันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางรถไฟจากตั้นสุ่ยไปตัวเมืองไทเป ต่อมาได้สร้างขยายไปถึงเมืองจีหลงไปจนถึงเมืองซินจู๋ และเมื่อค้นพบออนเซ็นในเเขตซินเป่ยโถว ก็ได้สร้างทางรถไฟจากเป่ยโถว เพื่อเชื่อมเขตออนเซ็นแห่งนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการสร้างอาคารสถานีรถไฟ สวนสาธารณะ บ้านพักผ่อน บ่ออาบน้ำสาธารณะ ที่พักแรมไว้ในเขตนี้อีกด้วย

อาคารสถานีรถไฟโบราณ

ภายในอาคารสถานีมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ของสถานีซินเป่ยโถว

ขบวนรถไฟในสมัยก่อน

ภายในมีการจำลองบรรยากาศและนำเสนอประวัติศาสตร์ของรถไฟสายนี้ในสมัยก่อน

หน้าสถานีมีบ่อแช่มือด้วยน้ำแร่ออนเซ็นด้วย 

ในยุคที่ไต้หวันตกอยู่ภายใต้อำนาจการยึดครองของอาณานิคมญี่ปุ่นมาตั้งแต่ในช่วงปี ค.ศ.1900 ทำให้ย่านนี้รู้จักกันในชื่อ Hokuto Village เป็นสถานที่ตากอากาศของชาวญี่ปุ่นที่มาปกครองดินแดนไต้หวันในขณะนั้น เนื่องจากสภาพแวดล้อม และแหล่งน้ำพุร้อนสีเขียวมรกตชั้นดีจึงทำให้ชาวญี่ปุ่นสร้างบ่ออาบน้ำแร่ขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อให้เหล่าข้าราชการ ทหาร และผู้ที่เดินทางมาในหน้าที่ราชการจากประเทศญี่ปุ่นได้ใช้งานเป็นสถานพักตากอากาศและรีสอร์ต ต่อมาเมื่อญี่ปุ่นได้คืนอำนาจการปกครองให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงปี ค.ศ.1945 ในปี 1945 สถานที่แห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัตถุประสงค์การใช้งานมาแล้วหลายครั้ง ได้แก่ สถานีตำรวจ, สำนักงานใหญ่ก๊กมินตั๋งและบ้านพักรับรองสำหรับเจ้าหน้าที่การบริหารเขตท้องถิ่นที่เรียกว่าบ้าน Zhongshan House และเนื่องจากการกัดกร่อนที่เกิดจากบ่อน้ำพุร้อนและการขาดการบำรุงรักษาที่เหมาะสมอาคารจึงถูกบังคับให้ต้องปิดและถูกทอดทิ้ง ต่อมาได้ถูกค้นพบอีกครั้งจากกลุ่มครูและนักเรียนจากโรงเรียนประถมศึกษาในท้องถิ่นจากกิจกรรมเดินทางไกลของโรงเรียน และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1995 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศให้บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ระดับ 3 ของประเทศเนื่องจากความพยายามผลักดันของเจ้าหน้าที่รัฐในการฟื้นฟูตัวอาคารแห่งนี้ให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง และในเดือนมีนาคมปี 1998 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งและมีการประกาศอย่างเป็นทางการจนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวดังเช่นปัจจุบัน

หลังจึงได้เปลี่ยนชื่อจาก Hokuto Village มาเป็น Beitou ซึ่งบ่อน้ำร้อนได้ถูกปิดลงหลังจากนั้น และต่อมาได้ถูกค้นพบอีกครั้งในสภาพเสื่อมโทรมโดยกลุ่มนักเรียนที่เดินทางเพื่อไปทัศนศึกษา ทางรัฐบาลจึงได้มีนโยบายให้มีการซ่อมแซม บำรุงรักษา และได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในเวลาถัดมา (*ข้อมูลดีๆ จาก changtrixget.com และ talontiew.com)

เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งเป็นสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะแห่งที่ 3 ที่ชาวญี่ปุ่นสร้างขึ้นต่อจากสวนหยวนซาน   สวน 228 

นอกจากนี้ ยังมีสถานที่หลายแห่งสำหรับเดินเล่นได้ทั้งวันอีกด้วย 

ศูนย์วัฒนธรรมไข่ตาเก๋อหลาน (Ketagalan Cultural Center) เขตเป่ยโถวเป็นเมืองเก่า มีประวัติศาสตร์มากกว่า 300 ปี แต่เดิมหมู่บ้านนี้เรียกว่า หมู่บ้านแม่มด หรือ Patauw ซี่งเป็นที่อยู่ของชาวไข่ต๋าเก๋อหลาน จึงได้มีการนำเสนอวัฒนธรรมของชาวไข่ตาเก๋อหลานที่นี่ด้วย


ยังเดินพาเที่ยวไม่จบ อย่าติดตามชมตอนต่อไปกันนะ


Comments