เที่ยวเมืองลู่กั่ง (鹿港)

ลู่กั่ง (鹿港)ตั้งอยู่ในเมืองจางฮั่ว มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ลู่ก่างเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน ตลาดโบราณลู่กั่งเป็นย่านธุรกิจหลักของเมืองลู่กั่ง ซึ่งเคยเป็นเมืองท่าที่คึกคักในช่วงราชวงศ์ชิงในช่วงปี 1600 โดยขขนส่งข้าว น้ำตาล การบูร ไปขายให้กับจีน และขากลับก็รับเสื้อผ้า เครื่องปั้นดินเผาจากจีนกลับมา โดยยังคงเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เฟื่องฟูจนถึงปี 1895 หลังจากนั้นเมื่ออ่าวตื้นเขินเรื่อยๆ ทำให้ท่าเรือที่นี่มีน้ำลึกไม่เพียงพอ ไม่เหมาะกับการนำเรือใหญ่เข้ามาจอด ประกอบกับภายหลังญี่ปุ่นเข้ามา การค้าขายกับจีนผ่านเมืองนี้จึงจบลง และญี่ปุ่นก็ได้ลงทุนสร้างทางรถไฟซึ่งห่างไกลจากลู่กังนัก คำว่าลู่กั่งมีความหมายตามตัวอักษรว่า "Deer Harbor" เนื่องจากในอดีตเคยเป็นท่าเรือหลักในการส่งออกหนังกวางกลับในช่วงที่เป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์

ไฮไลท์ของเมืองลู่กั่งคือวัดเทียนโฮ่วกง (鹿港天后宮) วัดนี้เป็นวัดเต๋าที่บูชาเทพมาจู่ (เทพธิดาแห่งท้องทะเล) ซึ่งนำมาประดิษฐานตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงในปี 1590 ซึ่งถือว่าเป็นวัดเทพมาจู่ที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน โดยรูปเทพมาจู่ของที่นี่มีลักษณะเป็นสีดำจากควันธูป อัญเชิญมาจากมณฑลฝูเจี้ยนของจีนในปี 1683


บริเวณรอบๆ วัดเป็นตลาดโบราณลู่กั่งให้หาอาหารโบราณ อาหารประจำเมืองต่างๆ ทานกัน และเมื่อมาที่ลู่ก่างแล้ว ไม่ควรพลาดกับการนั่งสามล้อไฟฟ้า (มีคนขับ) ชมรอบเมือง จุดเช็คอินเด่นๆ เช่น

วัดหลงซาน (龍山寺) ในไต้หวันมีวัดหลงซานซื่อ ทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ 1.ไทเป 2.เขตตั้นสุ่ยของนิวไทเป หรือซินเป่ยซื่อ 3.เขตหลินโข่วของนิวไทเป 4.ลู่กัง 5.ไถหนาน และ 6.เกาสง 

วัดหลงซานซื่อในเมืองลู่กัง ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1786 โดยภายในวัดประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมที่อัญเชิญมาจากมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ปัจจุบันถือเป็นวัดหลงซานซื่อที่คงสภาพความสมบูรณ์ดั้งเดิมไว้ได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับวัดหลงซานซื่อทั้งหมดในไต้หวัน และยังได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติด้วย


ซอยจับนม หรือภาษาจีนเรียกว่า “โมรู่เซียง” เนื่องจากมีความกว้างของซอยเพียง 70 เซนติเมตร โดยซอยจับนมมีอายุกว่า 200 ปีแล้ว จุดประสงค์หลักของการสร้างซอยนี้ก็เพื่อเป็นทางหนีไฟ ส่วนที่สร้างเป็นทางแคบๆ ชนิดหายใจรดต้นคอกันได้ ก็เพื่อให้ผ่านได้ทีละคน

หมู่บ้านศิลปะลู่กัง (Lukang Artist Village) ในสมัยที่ญี่ปุ่นยังปกครองอยู่ หมู่บ้านนี้เคยเป็นหอพักข้าราชการ ต่อมาก็ถูกทิ้งร้างไว้ จนกระทั่งปี 2006 ทางเมืองจางฮั่วได้นำสถานที่แห่งนี้มาปรับปรุงให้กลายเป็นแหล่งงานศิลปะแห่งแรกในเมืองจางฮั่ว







Comments